วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

รวบ 2 สาวฟิลิปปินส์ ตุ๋นเรี่ยไรเงินคนไทยช่วยเหยื่อไห่เยี่ยน


รวบ 2 สาวฟิลิปปินส์อ้างตัวเป็นนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนา ต้มตุ๋นเรี่ยไรเงินช่วยเหยื่อไห่เยี่ยน คาดมีผู้เสียหายหลายพันคน

            วานนี้ (22 พฤศจิกายน 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งต้มตุ๋นจากฟิลิปปินส์ ซึ่งมาในคราบนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนา เป็นหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 คน คือ Ms.Minerva Macapili Bedana อายุ 32 ปี และ Ms.Juana Espelita Hoyos อายุ 23 ปี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย กีตาร์โปร่ง 1 ตัว, เงินสด 2,070 บาท, หนังสือเดินทางของทั้งสองคน, เอกสารของมูลนิธิ JC Society Foundation หรือมูลนิธิ JC สังคม ที่มีอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมูลนิธิฯ จำนวน 10 ชุด

            โดย พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก สว.ตม.อุดรธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากมูลนิธิ JC สังคม ว่ามีคนนำเอาเอกสารของมูลนิธิฯ ไปเรี่ยไรเงินตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้งที่กรุงเทพฯ, ปริมณฑล, ชลบุรี, ภูเก็ต, ขอนแก่น, อุบลราชธานี และอุดรธานี โดยหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์รายหนึ่งจะใช้กีต้าร์โปร่งไปยืนร้องเพลงตามศูนย์การค้า, ปั๊มน้ำมัน หรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ขณะที่อีกคนก็จะทำหน้าที่ยื่นเอกสารของมูลนิธิที่แอบคัดลอกมาจากอินเตอร์เน็ต ถ่ายเอกสารแล้วเคลือบพลาสติกให้ดูเหมือนของจริงเพื่อใช้อ้างในการขอเรี่ยไร เมื่อใครหลงเชื่อจะยื่นเงินให้ใส่ในกล่องแล้วทำทีเป็นจดชื่อผู้บริจาคลงในบัญชีที่ทำปลอมขึ้นมา

            สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ชุดสืบสวนได้ออกตระเวนหาข่าว กระทั่งพบผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย กำลงยืนเรี่ยไรเงินอยู่ภายในร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันเชลล์ ตรงข้ามโรงแรมนภาภัย ถ.ประชารักษา ต.หมากแข้ง จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและส่งรายชื่อไปยังมูลนิธิฯ ที่กล่าวอ้าง และได้รับการยืนยันว่า ไม่มีชื่อบุคคลทั้งสองในมูลนิธิฯ จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน

            ทั้งนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ทำงานอยู่ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงมนิลา และทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนาหรือมิชชันนารี กระทั่งพบข้อมูลของมูลนิธิที่ให้การช่วยเหลือเด็กกำพร้าและผู้ด้อยโอกาส จึงได้ทำการคัดลอกข้อมูลและภาพกิจกรรมของมูลนิธิฯ เพื่อเอามาเคลือบแผ่นพลาสติก และทำรายชื่อปลอมขึ้นมาเพื่อรับบริจาค ก่อนเดินทางมาที่ประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แล้วทำการต้มตุ๋นเรี่ยไรเงินบริจาค โดยเริ่มที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และขยายไปตามจังหวัดใหญ่ ๆ หลายจังหวัด เป็นเวลานาน 2 เดือนแล้วก็เดินทางกลับ เพราะวีซ่าท่องเที่ยวมีอายุแค่ 2 เดือน แล้วก็เดินทางเวียนกลับมาต้มตุ๋นใหม่ในลักษณะเดิมอีก

            กระทั่งล่าสุดได้เดินทางกลับมาเมืองไทย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงอาศัยโอกาสที่ประเทศฟิลิปปินส์ประสบภัยครั้งใหญ่ แอบอ้างเรี่ยไรเงินไปช่วยเหลือจนได้เงินมาร่วมหลายแสนบาท โดยเงินอยู่ระหว่างการตรวจสอบการโอนเงินระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ทั้งคู่ได้ถูกตั้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว ทำงานเรี่ยไรเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนคดีปลอมแปลงเอกสาร และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องให้ทางมูลนิธิฯ เข้าแจ้งความก่อน และคดีต้มตุ๋นต้องให้ผู้เสียหายที่ร่วมบริจาคเงินเข้าแจ้งความเพิ่มเติม คาดว่ามีผู้เสียหายแล้วหลายพันคน
รองเท้ากีฬา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น