วานนี้(17 ต.ค.) จากกรณีบริษัทสตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น เจ้าของร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ เตรียมดำเนินคดีกับร้านกาแฟสตาร์บัง ซึ่งเป็นร้านรถเครื่องขายอยู่ริมถนนบริเวณหน้า ถ.พระอาทิตย์ เขตพระนคร กทม ซึ่งล่าสุด บ.สตาร์บัคส์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
ให้มีคำสั่งจับกุมและกักขังนายดำรงค์ มัสแหละ หรือ “บัง” เจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บัง และนายดำรัส น้องชาย ผู้จะถูกฟ้องที่ 1 และ 2 แล้ว ในคดีหมายเลขดำที่ คค.1/2556 และคดีหมายเลขแดงที่ คค.1/2556 ลงวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้นัดไต่สวนในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.
โดยฟ้องในข้อหาเลียนแบบเครื่องหมายการค้าซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ม.109,110 โดยทางสตาร์บัคขอศาลให้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าและการบริการ รวมถึงขอให้ยุติการเลียนและยุติจำหน่ายสินค้าโดยใช้เครื่องหมายการค้าที่เลียนแบบด้วย
นอกจากนี้ทางสตาร์บัคส์ยังเรียกร้องขอให้มีการชำระเงินจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 30,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะยุติการละเมิด และให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีแก่โจทก์
ซึ่งทางบริษัทสตาร์บัคส์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการพยายามไกล่เกลี่ยเพื่อยุติข้อพิพาท แต่กลับไม่เป็นผล โดยเมื่อเดือนกันยายน 2555 ได้มีการพยายามติดต่อให้สตาร์บังเปลี่ยนแปลงโลโก้แล้ว แต่สตาร์บังนิ่งนอนใจ รวมถึงมีการผลิตรูปลอกและปลอกหุ้มกาแฟ รวมถึงเสื้อผ้าอีก ซึ่งการละเมิดดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้าและบริการ รวมถึงอาจจะทำให้ลูกค้าเสื่อมความนิยมเชื่อถือในคุณภาพสินค้าด้วย
ด้าน นายดำรงค์ หรือ บัง ได้เผยยืนยันว่า โลโก้ของตนทำขึ้นตามหลักศาสนาและไม่ได้เป็นการลอกเลียนอะไร เพราะมีโลโก้ดาวเดือน เครื่องหมายฮาลาล พื้นสีเขียว ซึ่งมันไม่ใช่ ส่วนที่มีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน300,000 บาทนั้น ตนคงหาไม่ได้เพราะมีลูก 6 คน หาเงินได้วันต่อวันเท่านั่น ขายได้แก้วละ 20-30 บาท ปีนึงยังไม่เท่ากับวันเดียวของเขาเลย.
รองเท้ากีฬา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น