เมื่อไม่กี่วันก่อนข่าวของสารเสพติดที่ชื่อว่า Krokodil กลายเป็นเรื่องราวที่คนให้ความสนใจ หลังจากที่เกิดกรณี 2 พี่น้องจากรัฐอิลินอยส์ ได้รับการยืนยันว่าร่างกายถูกกัดกินจนเนื้อเละ จากผลของการเสพ Krokodil มาเป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว
Krokodil เป็นภาษารัสเซีย หรือก็คือ crocodile จระเข้ ในภาษาอังกฤษนั่นเอง มีชื่อเรียกเล่นๆว่า ยากินผู้เสพ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศรัสเซีย ก่อนจะแพร่ขยายอย่างรวดเร็วไปในทั่วโลก โดยเฉพาะขณะนี้กำลังระบาดหนักในสหรัฐอเมริกา
Krokodil มีราคาถูกกว่าเฮโรอีนถึง 3 เท่า ออกฤทธิ์รุนแรงยาวนานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง Krokodil มีส่วนผสมของยาแก้ปวด, ทินเนอร์, LSDเป็นยาหลอดประสาทชนิดหนึ่งและธาตุฟอสฟอรัส เข้าด้วยกัน หรือในบางครั้งมีการผสมน้ำมันเบนซินเข้าไปด้วย ขณะที่วิธีการเสพก็เหมือนเฮโรอีน นั่นคือเผาให้เป็นน้ำ แล้วนำมาฉีดเข้าสู่เส้นเลือด เมื่อเสพเข้าไปจะทำปฏิกริยาส่งผลให้เนื้อตัวเน่าเละ ผิวเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือดำคล้ายจระเข้นั่นเอง
แต่ความน่ากลัวของ Krokodil อยู่ที่การทำลายร่างกายคนจากภายในสูภายนอกให้เห็นได้ชัดเจน หลอดเลือดตามร่างกายจะแตก จนผิวเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวน่าเกลียดน่ากลัว ก่อนจะทำลายเนื้อเยื่อสมอง และเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายจนเกิดเป็นแผลเน่าเละทั้งลำตัว ขาแขน หรือแม้กระทั้งปากและฟัน หู รวมถึงอวัยวะภายในอย่างตับและปอด จนผู้เสพมีภาพลักษณ์ภายนอกผีดิบซอมบี้ และทำให้เสียชีวิตในเวลาประมาณ 1 ปี
ขณะที่ในประเทศรัสเซีย มีผู้เข้ารับการรักษาจากอาการติด Krokodil กว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งแพทย์ก็สามารถช่วยยื้อชีวิตของผู้ป่วยต่อไปได้อีกเพียง 2-3 ปีเท่านั้น ส่วนในสหรัฐอเมริกา Krokodil กำลังคร่าชีวิตชาวมะกันไปอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผสมที่หาได้ไม่ยากเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้Krokodil เป็นยาเสพติดที่กำลังระบาดหนัก แต่ความสุขหลังการเสพเพียงชั่ววูบกลับส่งผลเสียต่อผู้เสพมากจนประเมินค่าไม่ได้ ยาเสพติดส่วนใหญ่ ใช้การเข้าสถานบำบัดเพื่อให้สามารถเลิกได้ แต่ Krokodil เป็นยาเพสติดที่เมื่อเสพแล้วก็เพียงจะรอวันตายจากฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวหนังส่วนต่างๆค่อยๆเน่าเละและลามไปทั่วตัวและเสียชีวิตในที่สุด นับได้ว่าเป็นยาเสพติดที่มีโทษร้ายแรงมากที่สุดในบรรดายาเสพติดที่นิยมในปัจจุบัน
ความอยากรู้อยากลองเป็นเหตุผลที่ทำให้วัยรุ่นและคนทั่วไปหันมาเสพยา แต่ไม่แน่ว่าความร้ายแรง Krokodil ยาเปลี่ยนคนเป็นซอมบี้นี้ อาจทำให้ใครหลายคนเข็ดขยาดการเสพยาไปเลยก็เป็นได้
รองเท้ากีฬา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น