วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ห้างดัง 'ซุปเปอร์ชีป'ภูเก็ต 18ปีค้าปลีก-ค้าส่ง


เหตุการณ์เพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า "ซุปเปอรชีป" ยักษ์ใหญ่ธุรกิจค้าส่งใน จ.ภูเก็ต ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ครองใจลูกค้ามากว่า 20 ปี แม้จะไม่มีคนเจ็บ หรือคนตาย แต่ก็ทำให้คนภูเก็ตต่างเสียดายห้างแห่งนี้...

คืนวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใน จ.ภูเก็ต ต่างหูผึ่ง หลังได้ยินวิทยุรับแจ้งเหตุ 206 ไฟไหม้อาคาร ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้า "ซุปเปอร์ ชีป" (SUPER CHEAP) ถนนเทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต รถดับเพลิงกว่า 20 คัน รีบบึ่งไปที่ห้างดังกล่าว ซึ่งเป็นห้างค้าส่งขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 30 ไร่ มีสินค้าเกือบทุกชนิด ซึ่งเพลิงได้ปะทุขึ้นตอนเวลาประมาณ 22.00 น. และลุกลามอย่างรวดเร็ว

ด้วยความเป็นห้างเก่า มีอายุกว่า 18 ปี โครงสร้างก็เป็นไม้ อีกทั้งสินค้าก็มีจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับขนาดของห้างที่ใหญ่โต การลำเลียงสายน้ำรถดับเพลิงก็เข้าไปถึงบ้างไม่ถึงบ้าง เพลิงลุกไหม้เต็มพื้นที่อย่างรวดเร็ว เปลวไฟลุกสว่างทั่วทั้งฟ้า ผู้คนที่มีบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียง ต่างแตกตื่น โกลาหล เนื่องจากใกล้กันกับห้างนี้ มีปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งหากไฟลุกลามไปถึง สถานการณ์คงจะเลวร้ายกว่านี้แน่

เจ้าหน้าที่พยายามระดมฉีดน้ำเข้าไปสกัดเพลิง แต่ก็ทำได้แค่หน้าห้าง อีกส่วนพยายามเข้าไปตรวจสอบดูว่ามีผู้ที่ติดอยู่ภายในห้างหรือไม่ พนักงานห้างเองก็หนีตายออกมา ส่วนใหญ่ก็สำลักควัน ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้นำตัวส่ง รพ.วชิระภูเก็ต ทั้งหมด รถดับเพลิงจากอำเภอใกล้เคียง ถูกระดมเข้ามาช่วย รวมกว่า 50 คัน นักผจญเพลิง-อาสากู้ภัย 300 นาย พยายามเข้าไปตรวจสอบ ดูว่ามีผู้ที่ติดอยู่ภายใน หรือไม่แต่ก็ได้ส่วนหนึ่ง  เสียงระเบิดดังสลับกับของเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ เล่นเอาคนในละแวกนั้นเผ่นหนีตายจ้าละหวั่น

แต่ก็ยังไม่พบผู้ที่ติดอยู่ภายใน หรือศพผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ระหว่างนั้นตลอดทั้งคืน บนโลกโซเชียลมีเดียก็มีการอัพภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ และมีคนอัพภาพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ แต่เป็นภาพจากเหตุการณ์อื่น มาทำให้คนเข้าใจผิดต่างๆ นานา จนผ่านไปรุ่งเช้า จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ ปรากฏว่า ซุปเปอร์ ชีป คงเหลือแค่ในภาพถ่ายและความทรงจำของคนภูเก็ต ห้างสรรพสินค้าหลังคามุงสังกะสี ที่มีทุกอย่างให้เลือกสรร ตอนนี้เหลือเพียงตอตะโก  หลายคนคงนึกเสียดายห้างนี้ไม่น้อย ถึงแม้จะเก่าและร้อนอบอ้าว รูปร่างคล้ายโกดังสินค้า โครงสร้างเป็นไม้ หลังคามุงสังกะสี ใหม่บ้างผุบ้าง แต่ห้างแห่งนี้ก็มีเสน่ห์ชวนหลงใหล และสามารถดูดเงินจากกระเป๋าคนภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงได้วันละกว่าสิบล้านบาท รายได้ต่อปีก็ปาไปหลายพันล้านบาท

แหล่งข่าวใน จ.ภูเก็ต ระบุว่า จ.ภูเก็ต มีกลุ่มธุรกิจห้างโมเดิร์นเทรดจำนวนมาก การแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ห้างซุปเปอร์ ชีป ก็ยังครองพื้นที่ทางการตลาดค้าปลีกและค้าส่งมาเป็นอันดับ 1 มาโดยตลอด โดยคนที่เข้าไปเดินก็เป็นทุกกลุ่มทุกวัย โดยเฉพาะพวกธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้า และกลุ่มคนชนชั้นล่างที่มีรายได้น้อย เพราะที่นี่ขายของไม่แพง ราคาจะถูกกว่าห้างสรรพสินค้า

"ของเขาถูกกว่าห้างอื่น ลองมาเปรียบเทียบราคาดู ก็ถูกกว่าบาทสองบาท แล้วของก็มีเยอะ แต่มันจะร้อนเพราะเขาเป็นเหมือนตลาดสดกึ่งห้างสรรพสินค้า หลังคามุงสังกะสีด้านข้างก่ออิฐถือปูน แต่บางแผนกก็มีแอร์ อย่างพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า อะไรพวกนี้ พื้นที่เขากว้างมาก ประมาณ 30 กว่าไร่ มีของทุกอย่าง พวกร้านอาหาร โรงแรมในภูเก็ต เขาไปซื้อของที่นั่น เพราะถ้าซื้อเยอะมันก็ถูกเยอะ และก็คนระดับรากหญ้าก็เดินเยอะ เห็นว่ารายได้ต่อวันก็สิบกว่าล้านบาท  พวกสาขาย่อยก็ทำไม่ใหญ่มาก ประมาณโลตัสเอ็กซ์เพรส ใหญ่กว่ามินิมาร์ท เซเว่น อีเลฟเว่น  ก็ยังขายดีกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป เพราะเขาจะเน้นของถูก ซึ่งที่ผ่านมาห้างซุปเปอร์ ชีป ก็ไม่เคยมีการถูกดำเนินคดี หรือถูกจับในเรื่องก่อสร้าง หรือดัดแปลง หรือคดีอื่นๆ มีเพียงในเรื่องกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เข้าตรวจสอบเรื่องปรับราคาสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เสียดายเหมือนกันที่ถูกไฟไหม้ เพราะห้างนี้เป็นเหมือนขวัญใจคนรากหญ้า เขาชอบกัน"

ไม่เพียงแค่แหล่งข่าวรายนี้รายเดียว ที่รู้สึกเสียดายห้าง ซุปเปอร์ ชีป แต่ชาวภูเก็ตต่างโหลดแชร์ภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้และโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เสียดายห้างแห่งนี้ด้วย สำหรับเจ้าของห้างแห่งเป็นของตระกูล "อนันตจรูญวงศ์" ซึ่งก็เป็นคนภูเก็ต อย่างแท้จริง จากร้านโชว์ห่วยเล็กๆ และขยับขยายธุรกิจ จนวันที่ 2 มิถุนายน 2538 ก็ได้ก่อตั้งเป็นห้างซุปเปอร์ ชีป อย่างเป็นทางการ ใช้ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีสโลแกน "ขายถูก ขายส่ง" บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าไม่ได้เป็นของตระกูลอนันตจรูญวงศ์ มียอดขายที่เติบโตขึ้นทุกปี อย่างปี 2552 เพิ่มเป็น 4,359 ล้านบาท และปี 2553 ขยับขึ้นเป็น 4,737 ล้านบาท และห้างนี้ยังได้ส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่าห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด ทั้งของคนไทยและของต่างประเทศ มีพนักงาน 700-1,000 คน มีสาขา 44  สาขา ในภูเก็ต และในพังงา อีก 1 สาขา

มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองคือ เสาไม้ หลังคามุงสังกะสี มีของทุกอย่างทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ของสด ของแห้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว เครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์แต่งบ้าน ตกแต่งสวน ร้านอาหาร ร้านทอง และที่โดดเด่นคือของถูก เรียกได้ว่า มาที่นี้ที่เดียวได้ทุกอย่าง แต่ลูกค้าที่นี้ก็ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้ามาด้วย เพราะที่นี่ร้อนอบอ้าวและกว้างใหญ่ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใครจะไปคิด เพราะอยู่มานานกว่า 18-19 ปี ไม่เคยมีอะไร ซึ่งสาเหตุก็คงยังไม่ต้องพูดถึง เพราะมันเป็นไปได้ทุกกรณี อย่างไฟฟ้าลัดวงจร ก็อาจเป็นเพราะสายไฟเก่ามีอายุการใช้งานมานาน หรือลอบวางเพลิง ก็อาจมีผู้ไม่หวังดี หรือคู่แข่งทางธุรกิจ ต้องการโค่นอันดับ 1 ของห้างค้าส่ง และการอุบัติเหตุที่มาจากความประมาทของพนักงาน หรือลูกค้า และอื่นๆ ก็เป็นได้ทุกกรณี

อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลพิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยชุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบและเก็บหลักฐานที่ซากห้างแห่งนี้แล้ว แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่เป็นการเผาเอาเงินประกันแน่ เพราะวงเงินประกัน 900 ล้านบาท คงจะไม่คุ้ม เพราะรายได้ที่นี่เองก็สูงลิบลิ่ว ประเด็นนี้ตัดทิ้งไปได้เลย แต่ปัญหาที่กำลังจะตามมาคือ พนักงานห้างแห่งนี้จะตกงาน ไม่มีงานทำ สาขาที่เหลือจะอยู่ได้หรือไม่ เพราะสำนักงานใหญ่มอดไหม้ไปแล้ว

ล่าสุด ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือไว้แล้ว ไหนจะเจ้าของห้างเอง ยังต้องสู้เอาสินค้าราคาถูกเหมือนเดิมมาตั้งขายข้างซากปรักหักพัง ทำให้คนภูเก็ต แฟนคลับ ซุปเปอร์ ชีป แห่กันเข้าไปช่วยอุดหนุน และเป็นกำลังใจให้พนักงานและผู้บริหารซุปเปอร์ ชีป นอกจากลูกค้าจะได้ของดี ของถูก แล้ว คนขายยังได้เห็นน้ำใจจากลูกค้าอีกด้วย.
รองเท้ากีฬา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น